Product Description
ที่นอนลมแบบลอน FUTURE รุ่น QDC-300B
ที่นอนลมแบบลอน FUTURE รุ่น QDC-300B ช่วยลดแรงกดทับ และกระจายแรงกดทับไปทั่วร่างกาย ลดแรงเสียดสีระหว่างที่นอนและผิวของผู้ป่วย อันจะช่วยลดสาเหตุของการเกิดแผลกดทับในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ และผู้ป่วยที่เกิดแผลกดทับแล้ว
รายละเอียดสินค้า
คุณสมบัติของตัวที่นอน
- ทำงานด้วยระบบ Two-cell-alternating ช่วยลดและกระจายแรงกดทับได้ดี โดยการสลับการพอง-ยุบของลอนที่นอนต่อเนื่อง 2 cell คือ ยุบ 1 ลอน พอง 1 ลอน
- วัสดุที่ใช้ทำที่นอนเป็น Nylon+PVC ที่ใช้ในทางการแพทย์ ให้ความทนทาน ช่วยระบายความร้อนและความชื่นได้ดี
- ที่นอนลมจำนวน 20 ลอน
- ขนาดของที่นอนลม 85 X 200 ซม. (กว้าง X ยาว)
- ความสูงของที่นอน 9.5 ซม. (4 นิ้ว)
- รับน้ำหนักได้ถึง 140 กิโลกรัม
- ควบคุมแรงดันลมโดยอัตโนมัติ ประหยัดไฟ มีฟิวส์ตัดไฟถึง 2 ตัว เพิ่มความปลอดภัย และเพิ่มความสะดวกด้วยที่แขวนตัวมอเตอร์ปั๊มลม เครื่องทำงานเงียบ
- ดูแลรักษาง่ายสามารถเปลี่ยนเฉพาะลอนที่มีปัญหาได้
คุณสมบัติของมอเตอร์
Electrical : AC 110/220 V 50 Hz/60 Hz
- Pressure Range : 40 – 100 mmHg
- Air Output : 6 – 7 L/min
- Dimention (L x W x H) : 25 x 12 x 10 cm.
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ที่นอนลมแบบลอน FUTURE
- เครื่องปั๊มสำหรับที่นอนลม
- ลอนสำรอง 1 ลอน
คำแนะนำการใช้สินค้าและการทำความสะอาด ที่นอนลมแบบลอน FUTURE
- นำตัวที่นอนวางบนเตียง วางผ้ายางปูไว้นนเบาะ นำสายจากตัวที่นอนต่อเข้ากับมอเตอร์ปั๊มลม
- เปิดสวิสท์มอเตอร์ เพื่อเริ่มปั๋มลมเข้าที่นอนลม
- ในการใช้งานครั้งแรก ให้หมุนสวิสท์ไปท่ี่ความแรงสูงสุด โดยจะต้องเปิดทิ้งไว้เที่อให้ลมเข้าที่นอนประมาณ 1 ชั่วโมง
- ถ้าผู้ป่วยนอนลงบนที่นอนแล้วรู้สึกว่า ที่นอนมีความแข็งหรือแน่นเกินไป ให้หมุนสวิสท์ปรับความแรงให้เบาลงตามต้องการ
- ในการทำความสะอาด ให้ใช้น้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดทำความสะอาด และเช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
- ในการติดตั้ง ควรตรวจเช็คท่อยางที่ต่อเข้ากันระหว่างมอเตอร์และตัวที่นอน ไม่ให้พับงอเพราะอาจจะทำให้ลมเข้า-ออกไม่สะดวก
แผลกดทับเกิดจาก-ระดับแผลกดทับ-การดูแลแผลกดทับ
แผลกดทับ คือ (Bed Sore คือ)
1. การเกิดแผลกดทับ
แผลกดทับเกิดจากอะไร
แผลกดทับ เกิดจาก น้ำหนักของผู้ป่วยที่กดทับลงตรงบริเวณที่เป็นส่วนโปนของกระดูก เช่น บริเวณศรีษะ หัวไหล่ ข้อศอก สะโพก ส้นเท้า เป็นต้น
ดังนั้นผู้ป่วยอัมพาต อัมพฤกษ์ ผู้ป่วยที่นอนไม่รู้สึกตัวและผู้ป่วยที่ไม่สามารถพลิกตัวได้ เช่น ผู้ป่วยหลังผ่าตัด จึงมีโอกาสเกิดแผลกดทับขึ้นได้ โดยเฉพาะบริเวณแผ่นหลัง บริเวณก้นกบ ก้น ข้อศอก สะโพก และบริเวณหลังเท้า
โดยปกติเส้นเลือดภายในร่างกายนำเลือดไปเลี้ยงบริเวณผิวหนังโดยนำพาสารอาหาร อากาศออกซิเจน และนำของเสียออกจากบริเวณภายในของผิวหนัง เมื่อเส้นเลือดเหล่านี้ถูกกดทับให้แคบลงหรือปิดไม่สามารถนำเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังไม่ได้รับสารอาหารและไม่สามารถขจัดของเสียออกได้ เซลผิวหนังจึงเริ่มตายและเกิดเป็นแผลขึ้น เรียกว่า แผลกดทับ
จำนวนเซลผิวหนังตายเท่าไหร่ แผลกดทับก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและลึกมากขึ้นเท่านั้น บางรายเป็นแผลกดทับลึกถึงกระดูก ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสเพิ่มขึ้นอีก
2. ระดับความรุนแรงของแผลกดทับมี 4 ระดับ คือ
ระดับแผลกดทับมีกี่ระดับ?
แผลกดทับระดับที่ 1 ผิวหนังแดงไม่เปลี่ยนสีผิวปกติแม้จะไม่มีการกดทับที่ผิวหนังบริเวณนั้นอีก
แผลกดทับระดับที่ 2 ผิวหนังเริ่มแตกเป็นรอย เกิดแผลตื้นๆหากไม่ได้รับการรักษาจะขยายวงกว้าง
แผลกดทับระดับที่ 3 ผิวหนังแตกลึก แผลเริ่มลามลึกผ่านชั้นไขมันไปถึงเนื้อเยื่อภายใน
แผลกดทับระดับที่ 4 ผิวหนังแตกลึกถึงเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและกระดูก หากมีการติดเชื้อขึ้นจะทำให้แผลเปลี่ยนเป็นสีเขียวและมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
3. วิธีการป้องกันและดูแลรักษาผู้ป่วยที่เป็นแผลกดทับ
วิธิการดูแลแผลกดทับ วิธีการพยาบาลแผลกดทับ
- ควรเปลี่ยนท่านอนทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะในรายที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยจัดให้ตะแคงซ้าย ตะแคงขวา นอนหงาย นอนคว่ำกึ่งตะแคง สลับกันไปตามความเหมาะสม เพื่อลดแรงกดดันที่ผิวหนัง ไม่ให้ผิวสัมผัสต้องจม และเสียดสีอยู่กับที่ใดที่หนึ่งนานๆ
- ดูแลที่นอน ผ้าปูที่นอน และเครื่องนอนต่างๆ ให้สะอาด แห้ง เรียบตึงอยู่เสมอ
- ควรใช้ที่นอนที่มีการถ่ายเทอากาศ เช่น ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ ที่นอนน้ำ ที่นอนฟองน้ำ หรือที่นอนที่บุด้วยเนื้อเจล ซึ่งช่วยลดแรงต้านเมื่อมีแรงกดทับจากการนอนหรือนั่ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ที่นอนที่การระบายอากาศไม่ดี เช่น ที่นอนหุ้มพลาสติก
- ควรยกหรือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยความระมัดระวัง โดยมีผ้ารองยกและใช้การยกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เพื่อป้องกันการเสียดสี
- ดูแลผิวหนังผู้ป่วยให้สะอาด แห้งไม่อับชื้น เพราะถ้าผิวหนังเปียกชื้นหรือร้อนจะทำให้เกิดแผลเปื่อย ผิวหนังถลอกง่าย โดยเฉพาะภายหลังที่ผู้ป่วยถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะแล้ว ต้องทำความสะอาดแล้วซับให้แห้ง และหากสังเกตพบว่าผู้ป่วยมีผิวหนังแห้งแตกเป็นขุย ควรดูแลทาครีมหรือโลชั่นทาผิวหนัง
- ดูแลให้ผู้ป่วยออกกำลังกายตามความเหมาะสม เพื่อให้กล้ามเนื้อ หลอดเลือด และผิวหนังแข็งแรง มีการไหลเวียนของโลหิตดี
- ดูแลให้อาหารผู้ป่วยอย่างเพียงพอ คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีนจำเป็นอย่างมากต่อผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ เพราะผู้ป่วยจะสูญเสียโปรตีนไปทางแผลจำนวนมาก นอกจากนี้ต้องดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ บ่อยๆ เพื่อช่วยให้แผลเยียวยาตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
- หากเป็นรอยแดงๆ ไม่ยอมหายไปสักที แม้จะทำตามวิธีป้องกันแล้วก็ตาม หรือผู้ที่เป็นแผลเกิดมีไข้ แผลเป็นสีแดงเข้มขึ้น เกิดหนองไหลออกมาจากแผล มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ มีอาการบวม หรือเจ็บปวดมากขึ้น อย่างหนึ่งอย่างใดเหล่านี้ ให้รีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเป็นอาการของการติดเชื้อที่แผลได้
สนใจสินค้าโทรเลย 090-956-6831
ID LINE: @banyavi (อย่าลืมใส่ @ ด้วยนะคะ)
Reviews
There are no reviews yet.