การวัดไข้-อุณหภูมิที่เป็นไข้

- premiummedical
- June 9, 2017
- รวมบทความ
- No responses
การวัดไข้-อุณหภูมิที่เป็นไข้
การวัดไข้-อุณหภูมิที่เป็นไข้
สาเหตุการเป็นไข้
ไข้เกิดจากร่างกายเกิดการติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าปกติ คือจะมากกว่า 37.5 องศา จะเกิดอยู่เพียงชั่วคราวเฉพาะในช่วงเกิดโรคหรือมีการเจ็บป่วย
อุณหภูมิที่เป็นไข้-ระดับของไข้
อุณหภูมิของร่างกายปกติ จะอยู่ในช่วง 36.0 – 37.5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิที่เป็นไข้จะสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส
- ไข้ต่ำ 37.6 – 38.4 องศาเซลเซียส
- ไข้ปานกลาง 38.5 – 39.4 องศาเซลเซียส
- ไข้สูง 39.5 – 40.5 องศาเซลเซียส
- ไข้สูงมาก มากกว่า 40.5 องศาเซลเซียส
อุปกรณ์ในการวัดไข้ (Thermometer)
ปรอทแก้ว
ข้อดี คือ
- ราคาไม่แพง
- สามารถนำไปวัดอุณหภูมิได้หลายทาง ทั้งทางปาก รักแร้ และทวารหนัก
ข้อเสีย คือ
- ใช้เวลาในการวัดนานประมาณ 2-5 นาที
- อ่านค่ายาก
- มีโอกาสแตกได้ซึ่งจะได้รับอัตรายจากสารปรอท
เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบดิจิตอล
ข้อดี คือ
- ราคาไม่แพงมาก
- สามารถนำไปวัดอุณหภูมิได้หลายทาง ทั้งทางปาก รักแร้ และทวารหนัก
- อ่านค่าง่าย จะแสดงผลเป็นตัวเลขให้อ่านง่าย
ข้อเสีย คือ
- ใช้เวลาในการวัดค่อนข้างนานประมาณ 1-2 นาที
เทอร์โมมิเตอร์อินฟราเรดวัดไข้ทางหู และ/หรือ หน้าผาก
ข้อดี คือ
- ใช้ง่าย
- ใช้เวลาในการวัดเร็วประมาณ 1 วินาที เหมาะสำหรับเด็กเล็ก
- อ่านค่าง่าย จะแสดงผลเป็นตัวเลขให้อ่านง่าย
- มีความแม่นยำสูง
ข้อเสีย คือ
- ราคาค่อนข้างสูง
วิธีการวัดไข้โดยใช้ปรอทแก้ว
การวัดไข้โดยใช้ปรอทให้ถูกวิธี ก่อนวัดปรอททุกครั้ง ต้องสลัดปรอท ให้อยู่ต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่า 95องศาฟาเรนไฮต์
- การวัดทางปาก ให้อมปรอทไว้ลิ้น ปิดปากให้สนิท และทิ้งไว้นาน 1-2 นาที ไม่ควรวัดหลังดื่มน้ำร้อนหรือน้ำเย็นมาใหม่ๆ ต้องรออย่างน้อย 15 นาทีก่อน
- การวัดทางทวารหนัก มักใช้ในเด็กเล็ก หรือทารกแรกเกิด ให้นำปรอทสอดเข้าทวารหนักประมาณ 1-2 ซม. โดยใช้มือซ้ายจับขาเด็กทั้งสองข้างขึ้น วัดนาน 1-2 นาที
- การวัดทางรักแร้ กระเปาะปรอทต้องอยู่ด้านในกลางรักแร้ ทิ้งไว้นาน 3-5 นาที
อาการที่แสดงว่ามีไข้
- ถ้ามีไข้หรืออุณหภูมิของร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ในบางคนอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดามตัว หรือหนาวสั่นร่วมด้วย
- อ่อนเพลีย ซึม หรือในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี อาจมีอาการชักได้ถ้าไข้สูงหรือมีประวัติเคยชักมาก่อน ต้องรีบเช็ดตัว และให้ยาลดไข้ช่วย
การดูแลและการรักษาเมื๋อมีไข้
- ระหว่างมีไข้ ให้ดื่มน้ำมากๆ ทั้งน้ำหวาน น้ำผลไม้ นมก็ได้เพื่อให้น้ำช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี ไม่ควรสวมเสื้อหลายชั้น หรือห่มผ้าหนาๆ
- เช็ดตัวลดไข้ เพื่อเป็นการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย ถ้ามีอาการปวดศีรษะร่วมกับการใช้กระเป๋าน้ำแข็งประคบบริเวณศีรษะและหน้าผาก
- ให้ยาลดไข้ตามความเหมาะสม เช่น ในเด็กให้ยาพาเซตามอล น้ำเชื่อมขนาดตามอายุของเด็ก ผู้ใหญ่ให้พาราเซตามอลชนิดเม็ด (500 มิลลิกรัม) 1-2 เม็ด
- ให้ดื่มน้ำมากๆ ประมาณ 2,500-3,000 มิลลิลิตร ต่อวัน ยกเว้นในรายที่เป็นโรคไต โรคหัวใจ
- ให้นอนพักมากๆ ในห้องที่มีอุณหภูมิไม่สูง อากาศถ่ายเทได้สะดวกและอากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน ลดกิจกรรมในการใช้พลังงานลดลง เป็นการลดการใช้ออกซิเจน การเผาผลาญอาหารของร่างกาย
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ย่อยง่ายมีประโยชน์ต่อร่างกายและห้พลังงานสูง เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก เป็นต้น
- สังเกตความผิดปกติ เช่น สีผิวหนัง อากาศหนาวสั่น อาการเพ้อ ชัก เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือทัน