บ้านยาเวชภัณฑ์ นนทบุรี

การวัดไข้-อุณหภูมิที่เป็นไข้

การวัดไข้-อุณหภูมิที่เป็นไข้

การวัดไข้-อุณหภูมิที่เป็นไข้

การวัดไข้-อุณหภูมิที่เป็นไข้

สาเหตุการเป็นไข้

ไข้เกิดจากร่างกายเกิดการติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าปกติ คือจะมากกว่า 37.5 องศา จะเกิดอยู่เพียงชั่วคราวเฉพาะในช่วงเกิดโรคหรือมีการเจ็บป่วย

อุณหภูมิที่เป็นไข้-ระดับของไข้

อุณหภูมิของร่างกายปกติ จะอยู่ในช่วง 36.0 – 37.5 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิที่เป็นไข้จะสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส

  • ไข้ต่ำ                37.6 – 38.4    องศาเซลเซียส 
  • ไข้ปานกลาง    38.5 – 39.4     องศาเซลเซียส 
  • ไข้สูง                39.5  – 40.5    องศาเซลเซียส 
  • ไข้สูงมาก         มากกว่า 40.5  องศาเซลเซียส 

อุปกรณ์ในการวัดไข้ (Thermometer)

ปรอทแก้ว

ข้อดี คือ

  • ราคาไม่แพง
  • สามารถนำไปวัดอุณหภูมิได้หลายทาง ทั้งทางปาก รักแร้ และทวารหนัก

ข้อเสีย คือ

  • ใช้เวลาในการวัดนานประมาณ 2-5 นาที
  • อ่านค่ายาก
  • มีโอกาสแตกได้ซึ่งจะได้รับอัตรายจากสารปรอท

เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบดิจิตอล

ข้อดี คือ

  • ราคาไม่แพงมาก
  • สามารถนำไปวัดอุณหภูมิได้หลายทาง ทั้งทางปาก รักแร้ และทวารหนัก
  • อ่านค่าง่าย จะแสดงผลเป็นตัวเลขให้อ่านง่าย

ข้อเสีย คือ

  • ใช้เวลาในการวัดค่อนข้างนานประมาณ 1-2 นาที

เทอร์โมมิเตอร์อินฟราเรดวัดไข้ทางหู และ/หรือ หน้าผาก

ข้อดี คือ

  • ใช้ง่าย
  • ใช้เวลาในการวัดเร็วประมาณ 1 วินาที เหมาะสำหรับเด็กเล็ก
  • อ่านค่าง่าย จะแสดงผลเป็นตัวเลขให้อ่านง่าย
  • มีความแม่นยำสูง

ข้อเสีย คือ

  • ราคาค่อนข้างสูง

วิธีการวัดไข้โดยใช้ปรอทแก้ว

การวัดไข้โดยใช้ปรอทให้ถูกวิธี ก่อนวัดปรอททุกครั้ง ต้องสลัดปรอท ให้อยู่ต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่า 95องศาฟาเรนไฮต์

  • การวัดทางปาก  ให้อมปรอทไว้ลิ้น ปิดปากให้สนิท และทิ้งไว้นาน 1-2 นาที ไม่ควรวัดหลังดื่มน้ำร้อนหรือน้ำเย็นมาใหม่ๆ ต้องรออย่างน้อย 15 นาทีก่อน
  • การวัดทางทวารหนัก มักใช้ในเด็กเล็ก หรือทารกแรกเกิด ให้นำปรอทสอดเข้าทวารหนักประมาณ 1-2 ซม. โดยใช้มือซ้ายจับขาเด็กทั้งสองข้างขึ้น วัดนาน 1-2 นาที
  • การวัดทางรักแร้ กระเปาะปรอทต้องอยู่ด้านในกลางรักแร้ ทิ้งไว้นาน 3-5 นาที

อาการที่แสดงว่ามีไข้

  • ถ้ามีไข้หรืออุณหภูมิของร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ในบางคนอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดามตัว หรือหนาวสั่นร่วมด้วย
  • อ่อนเพลีย ซึม หรือในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี อาจมีอาการชักได้ถ้าไข้สูหรือมีประวัติเคยชักมาก่อน ต้องรีบเช็ดตัว และให้ยาลดไข้ช่วย

การดูแลและการรักษาเมื๋อมีไข้

  • ระหว่างมีไข้ ให้ดื่มน้ำมากๆ ทั้งน้ำหวาน น้ำผลไม้ นมก็ได้เพื่อให้น้ำช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี ไม่ควรสวมเสื้อหลายชั้น หรือห่มผ้าหนาๆ
  • เช็ดตัวลดไข้ เพื่อเป็นการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย ถ้ามีอาการปวดศีรษะร่วมกับการใช้กระเป๋าน้ำแข็งประคบบริเวณศีรษะและหน้าผาก
  • ให้ยาลดไข้ตามความเหมาะสม เช่น ในเด็กให้ยาพาเซตามอล น้ำเชื่อมขนาดตามอายุของเด็ก ผู้ใหญ่ให้พาราเซตามอลชนิดเม็ด (500 มิลลิกรัม) 1-2 เม็ด
  • ให้ดื่มน้ำมากๆ ประมาณ 2,500-3,000 มิลลิลิตร ต่อวัน ยกเว้นในรายที่เป็นโรคไต โรคหัวใจ
  • ให้นอนพักมากๆ ในห้องที่มีอุณหภูมิไม่สูง อากาศถ่ายเทได้สะดวกและอากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน ลดกิจกรรมในการใช้พลังงานลดลงป็นการลดการใช้ออกซิเจน การเผาผลาญอาหารของร่างกาย
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ย่อยง่ายมีประโยชน์ต่อร่างกายและห้พลังงานสูง เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก เป็นต้น
  • สังเกตความผิดปกติ เช่น สีผิวหนัง อากาศหนาวสั่น อาการเพ้อ ชัก เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือทัน

การวัดไข้-อุณหภูมิที่เป็นไข้

Would you like to share your thoughts?

Your email address will not be published.